ไขปัญหาธรรมบนเว็บบอร์ด

ยินดีต้อนรับ, ผู้เยี่ยมชม
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน.    ลืมรหัสผ่าน?

กราบเรียนถาม วิธีการเดินจงกรมที่ถูกต้อง
(1 viewing) (1) ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
ถาม-ตอบปัญหาธรรม
Go to bottom
ตอบกลับ
เริ่มหัวข้อใหม่
หน้า: 12
หัวข้อ : กราบเรียนถาม วิธีการเดินจงกรมที่ถูกต้อง
#267
Re: กราบเรียนถาม วิธีการเดินจงกรมที่ถูกต้อง 9 ปี, 8 เดือน ก่อน  
จำได้ว่า เรื่องการเดินจงกรมนี้ หลวงตาได้เคยสอนแบบละเอียดพิเศษสำหรับผู้ใฝ่ฝึกฝนอย่างจริงจังเพื่อเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่แน่ใจว่า ผู้ใช้นามแฝงว่า "คนจรที่จากไป" จะแนะนำได้หรือไม่ว่า "ละเอียดในเนินทั้งห้า ฯลฯ" นั้น เป็นการวางเท้าอย่างไร เรื่องนี้หลวงตาสอนไว้แล้วละ สำหรับศิษย์ที่ปรารถนาการฝึกแบบนั้น

ถ้าจะขยายความให้ผู้ใฝ่ศึกษาที่เข้ามาแวะเยี่ยมเยือน เว็บวัดป่าสุธัมมารามแห่งนี้ได้รับรู้ ก็ช่วยสงเคราะห์หน่อยนะ อธิบายวิธีการวางเท้าเพื่อให้ "ละเอียดในเนินทั้งห้า ฯ" ให้ได้ศึกษากัน หรือ ผู้อื่นที่เคยศึกษามา หรือที่เคยศึกษาจากหลวงตา ก็ได้ ช่วยแนะนำหน่อย สำหรับหลวงตาแล้ว จะสอนให้เป็นเฉพาะราย ที่มองว่าน่าจะได้ลองฝึกดู จึงไม่ขอขยายความในที่นี้ เพราะเหตุว่าจะต้องอธิบายให้ทั้งทางกายภาพ และทางสภาวะจิต สภาวะธรรม ผลที่จะได้รับ ผลดี ผลเสีย การวางจิต เพื่อป้องกันการเสียจริตในภายหลัง เพราะหลายคนที่รับรู้ไปแล้ว ไม่ยอมรับที่จะเข้าใจถึงความละเอียดในเรื่องเหล่านี้ ต้องเสียจริตไปหลายคน

บุญรักษา


ใส่รหัสที่นี่   
กล่องตอบด่วน
หลวงตากิตติญาโณ

Reply Quote
 
#280
Re: กราบเรียนถาม วิธีการเดินจงกรมที่ถูกต้อง 9 ปี, 7 เดือน ก่อน  
เดินจงกรม พิจารณาธรรม และ เซิร์ช(search)จิต

คำว่าเซิร์ชจิต เขียนถูกหรือผิดอย่างไรก็ต้องขออภัย เป็นการเขียนทับศัพท์ต่างประเทศ จะใช้คำว่าสำรวจ มันก็ดูจะไม่ค่อยตรง จะใช้คำว่าค้นหา ก็ไม่น่าใช่ จึงใช้คำทับศัพท์แต่เขียนเป็นไทยโดยอาศัยตัวอักษรภาษาต่างชาติมาช่วยในการสะกด

จำได้ว่า สมัยที่เดินบิณฑบาตร ในสถานที่ไกลๆ มีระยะเดินยาวๆ ก่อนจะถึงหมู่บ้าน หลวงตาก็จะใช้วิธีนี้ฝึกสอนตัวเอง คือเดินแบบละเอียดในเนินทั้งห้า แล้วก็จับอารมณ์ปรารถนาในจิต ให้เป็นปัจจุบัน จิตปรารถนาอย่างไร ก็ดำเนินไปอย่างนั้น จิตปรารถนาจะพิจารณาธรรม ก็นำธรรมที่จิตปรารถนามาพิจารณา ปล่อยให้จิตพิจารณาไปตามปรารถนาโดยไม่ขัด แล้วเราก็รู้ตามไปเรื่อยๆ ความรู้ต่างๆ ก็ปรากฎได้ไม่ยาก ที่สงสัยก็คลาย เมื่อรับรู้แล้ว ก็นำกลับมาทบทวน สอนตนเองอีกครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ตามแต่จะมีระยะทางเดิน กระทำอย่างนี้ ก็เกิดความปีติเข้าใจในธรรมต่างๆ ได้กระจ่างแจ้งขึ้นเป็นลำดับ

ครั้นเมื่อบิณฑบาตรได้อาหารแล้ว มากมายเกินความต้องการ ก็พิจารณาว่าจะทำอย่างไร กับอาหารจำนวนมากมายเหล่านั้น พิจารณาไป สัมผัสทั้งห้าก็รับรู้อารมณ์ ตั้งแต่บรรดาหมู่ญาติที่ถวายอาหารใส่ลงในบาตร อากัปกิริยา ท่าทาง เสียงกล่าว ภาพอาหาร กลิ่น อาหาร อายตนะทั้งหลายที่ทำงานร่วมกันเป็นขบวนการ กำลังดำเนินไปเพื่อที่จะก่อกิเลสให้เจริญเป็นหมู่มารที่จ้องทำลายผลาญตบะ ทำให้เกิดความคิดที่จะกำจัดมันออก จึงได้วิ่งไล่อารมณ์ต่างๆ ที่เข้ามาในช่องทางทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย มันเกิดที่ไหน ก็ดับมันที่นั่น ไม่ให้มันเข้าสู่จิต เกิดเป็นความรู้ เป็นวิชชา ในการเดินบิณฑบาตร

ได้ทั้งการเดินจงกรมแบบละเอียด ได้ทั้งการพิจารณาธรรม และได้การไล่สกัดอารมณ์อันเป็นกิเลสที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องสับสน กระทำอย่างนี้นานวันเข้า ก็เกิดเป็นความชำนาญ ได้เห็นอารมณ์ที่สงบ ไม่สนุก ก็เลยไปก่อกวนมันให้วิ่งเล่น แล้วเราก็ไล่จับมัน ที่สุดก็จับมันมาเรียงแถว แล้วสอนสั่งมันให้เป็นระเบียบ เป็นแถวไม่สับสน ไล่ตั้งแต่ กายที่ย่ำไป สัมผัสต่างๆ ที่กระทบ ตาที่เห็นภาพ จมูกที่ได้กลิ่น หูที่ได้ยินเสียง ลิ้นที่เกิดรสขึ้น แล้วก็ห้ามไม่ให้มันเข้าสู่จิต

กระทำเช่นนี้นานนับเป็นปี หลายปี จึงเข้าใจเรื่อง กาย จิต ธรรม อันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เผลอสติเมื่อไร ก็เป็นอันว่าโดนเสียบทันที มันพุ่งตรงเข้าสู่จิตทันที ชักนำให้เกิดกรรมที่ต้องชำระอย่างต่อเนื่อง ที่สุดก็เข้าใจเรื่อง ตัณหาร้อยแปดได้อย่างกระจ่าง อายตนะสิบสอง กรรมสาม กาลสาม ถ้าไม่กระจ่าง ก็อย่าหวังที่จะเดินทางสายตรงได้อย่างปลอดภัย

บุญรักษา


ใส่รหัสที่นี่   
กล่องตอบด่วน
หลวงตากิตติญาโณ

Last Edit: 2014/10/17 22:53 By admin.
Reply Quote
 
Go to top
ตอบกลับ
เริ่มหัวข้อใหม่
หน้า: 12